[TONORITZ] รักเธอเสมอ - [TONORITZ] รักเธอเสมอ นิยาย [TONORITZ] รักเธอเสมอ : Dek-D.com - Writer

    [TONORITZ] รักเธอเสมอ

    คนนึงบอกให้อีกคนรอ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป คนนั้นกลับเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม

    ผู้เข้าชมรวม

    719

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    719

    ความคิดเห็น


    26

    คนติดตาม


    4
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 พ.ย. 54 / 18:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
      

    คนนึง เฝ้ารอ อย่างมีหวัง แต่อีกคนกลับทำเหมือนว่าเราเป็น แค่คนรู้จักกัน
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       

                  พระอาทิตย์มักจะส่องแสงในยามเช้า และลับขอบฟ้าไปในยามเย็น วนเวียนอย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด แต่กับหัวใจของใครบางคน มันกลับไม่เคยหมุนตามไปด้วย หัวใจดวงนี้มันหยุดหมุนไปนานแล้ว ตั้งแต่ที่คนคนนั้นเดินจากไป

                       ริท รอพี่ก่อนนะ พี่ไปไม่นานหรอก พี่รักริทเสมอนะ แล้วพี่จะรีบกลับมา

                  คำสัญญาในวันนั้น เรืองฤทธิ์ยังจำมันได้ดีและยังทำตามสัญญานั้นเสมอ แต่สำหรับใครอีกคน เรืองฤทธิ์ไม่รู้เลยว่า สัญญานี้มันจะยังสำคัญสำหรับคนคนนั้นอยู่รึเปล่า ...

                  “ริท ริท ริท!!!” ร่างเล็กสะดุ้งทันทีที่เพื่อนร่วมงาน เรียกอย่างเสียงดัง

                  “มีอะไรรึเปล่า เรียกซะเสียงดังเลย”

                  “ท่านประทานเรียกพบหน่ะ ตอนนี้เลยนะริท” บอกธุระของตนเองก่อนที่จะกำชับให้เรืองฤทธิ์ไปพบท่านประธานตอนนี้เลย

                  “อ่า จ๊ะ ขอบคุณมากนะ” ส่งยิ้มแทนคำขอบคุณก่อนที่สองเท้าจะก้าวเดินำปพบท่านประธานที่ว่า อย่างไม่แปลกใจสักนิด

                  เมื่อเดินมาถึงหน้าห้อง เรืองฤทธิ์จัดการเคาะประตู 2-3 ครั้งก่อนที่จะเอ่ยคำขออนุญาต ยังไม่ทันที่คนที่อยู่ภายในจะตอบรับ มือบางก็ถือวิสาสะบิดลูกบิดประตูและเปิดเข้าไปเสียแล้ว

       

                  ภายหลังเก้าอี้ตัวใหญ่ในห้องที่ดูหรูหราสมกับห้องของท่านประธานบริษัท เรืองฤทธิ์ไม่รู้เลยว่า ณ เวลานี้ไม่ใช่ท่านประธานคนเดิมที่เขารู้จักเสียแล้ว ซึ่งเป็นใครบางคนที่เรืองฤทธิ์ได้เห็นแล้วจะต้องประหลาดใจเป็นแน่ ทันทีที่เก้าอี้ตัวใหญ่หมุนกลับมาเพื่อให้คนที่มาเยือนนั้นได้เห็นหน้า สมองของเรืองฤทธิ์เหมือนหยุดสั่งการไปในทันที ตาเบิกโพลง สองขาสั่นระริกแทบจะยืนไม่อยู่ในเวลานี้ ในขณะที่อีกคนกลับส่งยิ้มบางๆมาให้

                  “คุณเรืองฤทธิ์ใช่ไหมครับ? ผม ภาคิน  คำวิลัยศักดิ์ ประธานบริษัทคนใหม่ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” คำเอ่ยทักทายแนะนำตัวทั่วๆไป แต่มันกลับทำร้ายจิตใจของเรืองฤทธิ์อย่างมากมายทีเดียว

                  คำว่า ยินดีที่ได้รู้จัก ตลกสิ้นดี ผู้ชายตรงหน้าเรืองฤทธิ์นี้ไม่ใช่คนเดียวกันกับที่เรืองฤทธิ์รู้จักอีกต่อไป นี่มันคงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผู้ชายคนนี้ไม่เคยติดต่อกลับมาเลยตั้งแต่ไปอยู่เยอรมัน แค่เรืองฤทธิ์คิดแค่นั้น ขอบตามันก็เริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาทันที น้ำตาแห่งความเสียใจไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ต่อไปนี้เราคงจะเป็นได้แค่คนที่รู้จักกันเท่านั้น

                  “คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ? เชิญนั่งก่อนสิ แค่ผมไม่ให้คุณนั่งคุณถึงกับต้องร้องไห้เลยหรือ” คำถามติดตลกที่ดูเหมือนจะห่วงใยคนตรงหน้า แต่สำหรับคนฟังกลับไม่คิดเช่นนั้น

                  “เปล่าครับ พอดีฝุ่นมันเข้าตา ท่านประธานมีอะไรกับผมรึเปล่าครับ” คำแก้ตัวที่ดูจะไปน้ำขุ่นเสียหน่อย แต่ภาคินก็ไม่คิดติดใจอะไร

                  “พอดีผมได้ยินมาจากท่านประธานคนก่อนหน่ะครับ ว่าคุณทำงานด้านเครทีฟเก่งมาก ผมเลยอยากให้คุณช่วยผมหน่อยครับ คุณพอจะมีเวลาว่างช่วยผมรึเปล่าครับ”

                  “ท่านประธานอยากจะสั่งให้ลูกน้องอย่างผมทำอะไร ผมก็ต้องทำอยู่แล้วล่ะครับ” ก้มหน้าก้มตาตอบด้วยน้ำเสียงที่ติดจะประชดหน่อยๆ คำพูดที่ใช้ก็ออกจะดูห่างเหิน นายเรืองฤทธิ์คนนี้ต้องเจียมตัวไว้สินะว่าเราหน่ะมันแค่ ลูกน้อง!

                  “พอดีในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ มันเป็นวันสำคัญ สำหรับผมและคนที่ผมรัก ผมอยากที่จะให้คุณช่วยจัดคอนโดของผมให้หน่อย เอาให้มันดูโรแมนติกหน่อย พอดีผมอยากที่จะของเค้าแต่งงาน”

                  คำพูดของภาคินเปรียบเสมือนมีดแหลมกรีดลงที่กลางจิตใจของเรืองฤทธิ์ น้ำตาที่เพิ่งห้ามให้มันหยุดไหล พาลที่ไหลลงมาอีกรอบ แต่งงาน เรืองฤทธิ์จำเป็นที่จะต้องยินดีกับเจ้านายอย่างภาคินด้วยไหมนะ หัวใจแห่งการรอคอยตลอดเวลาที่ผ่านมามันเคยมีแสงริบหรี่นำทางเสมอ แต่ในวันนี้วันที่ภาคินเอ่ยปากว่าจะแต่งงาน มันเหมือนภาคินเอาน้ำมารดลงบนหัวใจที่เคยมีแสงให้ดับลง และพลอยทำให้หัวใจดวงนี้แตกสลายไปด้วย

                  “ได้สิครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะเริ่มทำงานวันนี้เลยละกันนะครับ”

                  “ขอบคุณมากครับ ส่วนนี่ก็คือคีย์การ์ดคอนโดผม คุณจะเข้าไปวันไหนเวลาไหนก็ได้นะครับ แล้วแต่คุณ”

                  “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”

                  พอพูดจบปุ๊บ เรืองฤทธิ์ก็ไม่รอช้ารีบก้าวเท้าออกจากห้องทันที หลังจากทำงานให้ภาคินเสร็จเรืองฤทธิ์ตัดสินใจแล้วว่าจะลาออกทันที แล้วเขากับภาคินจะได้ไม่ต้องเจอะเจอกันอีก สำหรับสถานะ แค่คนรู้จักนั้นเขารับมันไม่ได้จริงๆ

       

                  หลังจากวันนั้นเรืองฤทธิ์ก็เข้าไปจัดคอนโดให้ภาคินทุกวันหลังเลิกงาน  คอนโดของภาคินออกแนวหรูแต่เรียบง่าย ห้องรับแขกที่มีโซฟาสีดำตั้งอยู่ไว้ดูทีวี LCD ที่มีระบบเซอราวด์รอบทิศทาง ออกสีแนวทึมๆเข้ากับผู้ชายอย่างภาคินดี ในส่วนของห้องครังที่มีเพรียบพร้อมทุกอย่างแต่เหมือนกับไม่เคยได้ใช้งาน แต่ในส่วนของห้องนอนเรืองฤทธิ์ไม่กล้าหรอกที่จะก้าวก่ายและเข้าไปใช้มัน แต่ห้องนี้มันก็ดูเรียบร้อยจนเกินไปสำหรับภาคิน เพราะเท่าที่เรืองฤทธิ์รู้จักภาคินมา เค้าไม่ใช่ผู้ชายเรียบร้อยเลยด้วยซ้ำ

                  พี่โตโน่! ริทบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ถอดเสื้อผ้าแล้วกองไว้แบบนี้หน่ะ มันไม่เรียบร้อย ทำไมไม่รู้จักเก็บบ้างนะ เรืองฤทธิ์ที่กำลังบ่นภาคินอย่างหงุดหงิน แต่คนถูกบ่นอย่างภาคินนี่สิดูท่าจะไม่รู้ร้อนรู้หนาวเอาซะเลย นอนดูทีวีอยู่บนเตียงอย่างสบายใจเฉิบ

                ก็พี่รู้ไง ว่ายังไงริทก็ต้องมาเก็บให้พี่อยู่ดี จริงมั๊ย?? พูดด้วยน้ำเสียงที่เจ้าเล่ห์ พร้อมกับเดินมากอดเรืองฤทธิ์ที่ด้านหลัง แถมยังขโมยหอมแก้มเรืองฤทธิ์ไปซะฟอดใหญ่ ส่งผลให้ร่างที่โดนกอดนั้นหน้าขึ้นสีระเรื่อขึ้นมาทันที

       

                  ภาพความทรงจำเก่าๆลอยเข้ามาในหัวของเรืองฤทธิ์ มันก็พาลจะทำให้น้ำตาไหลลงมาอีก เรืองฤทธิ์รู้ดีว่าความสัมพันธ์แบบนั้นมันคงไม่มีทางเป็นไปได้อีก ในเมื่ออีกคนกำลังจะแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ เสียใจ เจ็บปวด เจ็บมากๆ แต่คงทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว มันจบแล้ว ...

                  คุณเรืองฤทธิ์ครับ!

      เอ่อ ขอโทษครับ มีอะไรรึเปล่าครับ

      ผมถามคุณตั้งนานแล้วว่า มีอะไรให้ผมช่วยมั๊ยครับ?

      ไม่มีหรอกครับ ผมจัดการไว้หมดแล้วละ เหลือตกแต่งอีกสักนิดหน่อยก็เสร็จแล้วละครับ

      เรืองฤทธิ์ตั้งใจตกแต่งห้องให้กับภาคินอย่างสุดฝีมือ แต่เขาคงจะทำเสร็จได้เร็วกว่านี้ถ้าไม่มีภาคินมาคอยป้วนเปี้ยน ถามนู่นถามนี่อยู่ตลอดเวลา หงุดหงิดชะมัด ไม่รู้จะอยากรู้อะไรนักหนา แต่ในที่สุดแล้วเรืองฤทธิ์ก็จัดห้องให้ภาคินได้สำเร็จอย่างสวยงาม

      แล้วพรุ่งนี้คุณพอจะว่างไหมครับ ผมอยากให้คุณมาตรวจดูแลความเรียบร้อยให้ผมอีกทีหน่ะครับ

      ได้ครับ ผมว่าง ตกปากรับคำไป ทั้งที่ในใจเจ็บปวดเหลือเกิน ภาคินต้องการที่จะทำร้ายกันไปถึงไหนนะ

      พรุ่งนี้ 1 ทุ่มตรง อย่าลืมมานะครับ เรืองฤทธิ์พยักหน้าเป็นการตอบรับก่อนที่จะหันหลังเดินกลับไป

      น้ำตาที่ไหลลงมาพร้อมกับสายฝน ทันทีที่เรืองฤทธิ์ก้าวออกจากคอนโดของภาคิน เหมือนฟ้าจะสงสารเรืองฤทธิ์และต้องการที่จะปลอบประโลมให้เรืองฤทธิ์หายเศร้า วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เรืองฤทธิ์จะร้องไห้ให้กับผู้ชายอย่างภาคิน พรุ่งนี้จะไม่มีเรืองฤทธิ์ที่อ่อนแออย่างวันนี้อีก

       

      1 ทุ่มตรง  วันที่ 21 พฤศจิกายน 2554

      ทั้งที่หัวใจไม่อยากเลยที่จะมาที่นี่อีก แต่สมองมันดันสั่งการให้เท้าสองข้างก้าวมาเอง แล้วมันเป็นเพราะอะไรนะพอมาถึงหน้าห้องกลับไม่กล้าแม้แต่เคาะประตู ยืนอยู่ตรงหน้าห้องสักพัก ก็ตัดสินใจยื่นมือไปเปิดประตูเข้าไป  ภาคินเห็นเรืองฤทธิ์มายืนหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเขานานสองนาน ภาคินรู้ถึงความรู้สึกของเรืองฤทธิ์ดี แต่เขากลับอยากให้คนที่เขารักได้มีความสุขที่สุด เพราะงั้นการที่ภาคินทำแบบนี้ เขาคิดดีแล้วว่ามันดีที่สุด สำหรับเราสองคน

      ทันทีที่เรืองฤทธิ์ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป เพลงคุ้นหูก็ดังขึ้นมาทันที

      ~ แค่ได้มองตาเธอในวันนั้น จากที่เราเจอกันแค่ครั้งเดียว  เปลี่ยนชีวิตที่เคยโดดเดี่ยวให้มีความหมาย

      ไม่ว่าฉันและเธอ ต่างคนต่างมาต่างกันเท่าไหร่  คำว่ารักจะผูกใจเราไว้ ไม่ให้ไกลกัน ~

      เรืองฤทธิ์จำได้ว่าวันแรกที่เขาและภาคินเจอกัน ก็คือวันนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เราเจอกันที่สวนสาธารณะ วันนั้นฝนตกอย่างหนัก เราเจอกันโดยบังเอิญ และก็เป็นภาคินที่ช่วยกันฝนให้เขา มันจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้มารู้จักกัน และ .. รักกัน ..

      ~ จากที่เคยเย็นชาก็หวั่นไหว จากเป็นคนอื่นไกลก็คุ้นเคย  สิ่งที่ฉันไม่เข้าใจเลย เธอบอกกันให้รู้

      เปลี่ยนชีวิตฉันไป อยากอยู่นานๆเพื่อจะเฝ้าดู  วันพรุ่งนี้รักเราจะเป็นอย่างไร  ~

      วันนั้นที่ภาคินบอกเขาว่า ต้องไปทำงานที่เยอรมัน ใจของเรืองฤทธิ์มันด้านชาไปหมด  หวั่นไหว หวาดกลัว กลัวว่าถ้าต้องห่างกันนานๆ ภาคินจะเปลี่ยนไป และสุดท้ายมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ วันนี้เขารู้แล้วละ ว่า รักแท้มันแพ้ใกล้ชิด จริงๆ

      ~ ฉันไม่เคยรักไม่เคยรู้ ว่าชีวิตมันดีเช่นไร  เมื่อได้มีบางคนข้างกาย เมื่อได้มีเธออยู่ข้างๆกัน

      ฉันมอบชีวิต ต่อจากนี้ไปจนนิรันดร์  ทั้งหัวใจคือเธอเท่านั้น รักของเราจะอยู่จนวันตาย  ~

      แสงไปในห้องถูกสาดส่องไปทางภาคินที่นั่งดีดกีตาร์และร้องเพลงอยู่ตรงกลางห้อง ภาคินร้องท่อนสุดท้ายคลอไปกับเพลงที่เปิด เมื่อเพลงจบลง คนที่กลางห้องวางกีตาร์ลง และเดินเข้ามาหาเรืองฤทธิ์ ส่งดอกกุหลาบในมือให้เรืองฤทธ์ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวนั้นจะอึ้งค้างไปเสียแล้ว น้ำตายังคงไหลออกมาอย่างไม่หยุด ดวงตาหวานมองภาคินอย่างไม่เข้าใจ

      แต่งงานกับพี่นะริท คุกเข่าพร้อมกับยื่นแหวนในมือให้เรืองฤทธิ์ แหวนที่ร่างบางบอกว่าชอบมาก และภาคินก็คิดว่ามันเหมาะที่สุดที่จะมาเป็นแหวนแต่งงานของเขาสองคน

      สายตาจากเรืองฤทธิ์ที่มองมายังภาคิน เป็นสายตาแห่งความไม่เข้าใจ สับสน คนตรงหน้านี้ต้องการที่จะเล่นตลกอะไรกับเขาอีก ที่ทำให้เขาเสียใจทุกวันนี้ยังไม่พออีกรึไง

      คุณต้องการเล่นตลกอะไรกับผมอีก ห๊ะ คุณภาคิน

      พี่ไม่ได้เล่นตลก และทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ทำลงไปก็เพื่อเซอร์ไพรส์ริท พี่ต้องการให้ห้องๆนี้ ให้มันเป็นห้องหอของเราสองคน พี่อยากให้ห้องตกแต่งออกมาถูกใจริทที่สุด และพี่ก็ไม่เคยลืมริทเลย พี่ยังจำสัญญาของเราได้เสมอ สัญญาว่าเราจะกลับมาเจอกันอีก พี่ทำงานเก็บเงินเพื่อให้มีวันนี้ พี่รักริทนะ และพี่จะรักริทตลอดไป

      แล้วพี่คิดว่าความรู้สึกของริทมันเป็นของเล่นรึยังไง พี่ไม่ติดต่อมาพี่รู้มัยว่าริทกลัวแค่ไหน กลัวว่าพี่จะไม่รักริทแล้ว กลัวว่าพี่จะมีคนอื่น แล้วพอพี่กลับมาพี่ยังทำแบบนี้กับริทอีก ริทเสียใจนะรู้มั๊ย ต่อว่าคนเป็นพี่ซะยืดยาว พร้อมกับน้ำตาที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าไหลมาเพราะดีใจ หรือ เสียใจกันแน่

      สองแขนแกร่งโอบกอดรอบตัวของคนตัวเล็กกว่าไว้อย่างห่วงแหน กลัวว่าถ้าปล่อยไปอีกคนคนนี้จะไม่ได้อยู่ให้เค้ากอดอีกแล้ว ภาคินกระซิบที่ข้างหูเรืองฤทธิ์อีกครั้ง

      แต่งงานกับพี่นะครับ คนดี

      อื้ม ตอบรับไปอย่างอู้อี๊ น้ำตาที่ตอนนี้เหือดแห้งไปหมดแล้ว หลงเหลือไว้แต่เพียงหน้าที่แดงระเรื่อ ด้วยความเขิล

      ภาคินขยับคลายอ้อมกอดของเรืองฤทธิ์ แล้วจ้องมองดวงหน้าหวานด้วยสายตาอ่อนโยน เหมือนมีแรงดึงดูดระหว่างกันและกัน ภาคินโน้มหน้าเข้าไปใกล้เรืองฤทธิ์เรื่องๆ จนหน้าของคนทั้งสองอยู่ใกล้กันจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ใกล้จนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นไปพร้อมๆกัน ทันทีที่ริมฝีปากแตะกัน มันเหมือนเป็นความรู้สึกที่โหยหากันมานาน เรืองฤทธิ์เอียงคอให้ความร่วมมือกันภาคินเป็นอย่างดี ริมฝีปากหนาเริ่มไล้เลียริมฝีปากบางไปเรื่อยๆ สอดลิ้นหนาเข้าไปชิมความหวานของคนตรงหน้า ซึ่งคนตรงหน้านี้ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี

       ทันทีที่หลังของร่างบางสัมผัสกับโซฟา ภาคินไม่รอช้า เริ่มไซร้ต้นคอที่ขาวเนียนละเอียดทันที พร้อมกับทำรอยแดงๆไว้ เพื่อประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่า คนตรงหน้านี้มีเจ้าของแล้ว และคนคนนั้นก็คือเขาเอง ....

      --------------------------------------------CUT NC-----------------------------------------------------


      ริท พี่รักริทมากนะคำบอกรักหวานหู ที่เมื่อก่อนนี้ภาคินมักจะพร่ำบอกเรืองฤทธิ์แบบนี้เสมอ และต่อจากนี้ไป ภาคินก็จะยังพร่ำบอกรักเรืองฤทธิ์อย่างนี้ตลอดไป ....
       
      ยามเช้าอันแสนสดใสมาเยือนทำให้ร่างที่อยู่ในอ้อมกอดของภาคินปรือตาขึ้นมาน้อยๆ ก่อนจะกระพริบตาเพื่อปรับแสง ก่อนจะหันไปมองคนที่กอดตนเองอยู่ หน้าหวานขึ้นสีระเรื่อด้วยความเขิน
      จะลักหลับพี่หรอครับ? คนดี ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้เรืองฤทธิ์ ก่อนจะแย่งขโมยจูบร่างบางไป จูบที่ไม่มีการล่วงล้ำใดๆ แต่กลับทำให้หัวใจของคนสองคน เต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้
      ป่าวสักหน่อย พี่โตโน่นั่นแหละ ลักหลับริท พูดอย่างงอนๆ แต่หน้านี่สิแดงจนจะเป็นลูกตำลึงอยู่แล้ว
      ริท พี่ถามจริงๆนะ ริทยังรอพี่อยู่ใช่ไหม
      ริทป่าวรอพี่โน่นะ แค่ยังไม่มีใครมาจีบต่างหาก เถียงอย่างข้างๆคูๆ หน้าหวานเบือนหนี ไม่อยากให้ภาคินเห็นเลยว่าหน้าเขานี่แดงซะเหลือเกิน
      จริงหรอ?? ฮ่าๆๆ ทำหน้าล้อเลียนร่างบางอย่างสุดฤทธิ์ ก่อนจะโดนฝ่ามือเล็กๆตีเข้าที่กลางอกที่เปลือยเปล่า
      ริทครับ เช้านี้อาบน้ำพร้อมพี่มั๊ยครับ?? ทิ้งคำถามที่เปรียบเสทิอนระเบิดตูมใหญ่ไว้ให้ร่างบาง ที่ตอนนี้เขินจนบอกไม่ถูกแล้ว ก่อนที่ภาคินจะทำตามอย่างที่พูด อุ้มร่างของเรืองฤทธิ์เข้าห้องน้ำไป..
       
      หลังวันนี้เขาทั้งสองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตของเขาทั้งสองคนจะเป็นเช่นไร มันจะดีหรือไม่ดี แต่ที่เขารู้ได้ตอนนี้ก็คือ แค่ภาคินมีคนตัวเล็กนี้อยู่เคียงข้างกัน ตื่นเช้ามาแล้วได้เห็นหน้ากัน ก่อนจะนอนได้บอกรักกันแค่นั้นเขาก็พอแล้ว ...
      THE END
       
      นี่เป็นฟิคเรื่องแรกเลยนะคะ ยังไงก็ฝากติชมด้วยนะคะ
      ส่วนใครอยากได้ NC ต่อจากนี้ก็เข้าไปโหลดได้ในนี้นะ

      http://www.4shared.com/document/SpUd9ncr/NC_online.html

      ไม่ส่งให้ในเมลแล้วนะ ไม่ว่างจริงๆจ้า ^^

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×